การแฮกข้อมูล เป็นการโจรกรรม ที่ทำให้สูญเสียเงิน และข้อมูลส่วนตัว

การแฮกข้อมูล หรือที่เรียกว่า Data Hacking การแฮกข้อมูลนี้ เกิดขึ้นเมื่อ มีการโจรกรรม ทางออนไลน์
ซึ่งนักโจรกรรม จะเข้าถึงข้อมูล ส่วนบุคคล ของพวกเรา โดยใช้ โค้ดแฮก เทคโนโลยี โปรแกรมแฮกข้อมูล เพื่อเข้าไป เจาะเอาข้อมูล ในมือถือ คอมพิวเตอร์ หรือเครือข่าย ที่เราใช้งานอยู่

การแฮกข้อมูล ที่มักพบกันบ่อย มีวิธีการ อย่างไรบ้าง

เครื่องมือที่ นักโจรกรรมใช้ นั้นเรียกว่า เจ้ามัลแวร์ และแรนซัมแวร์ โปรแกรมแฮกข้อมูล คอมพิวเตอร์
โดยมัลแวร์ จะทำการ หลอกล่อให้ ผู้ใช้งาน อย่างเราๆ ทำการติดตั้ง ซอฟต์แวร์ ที่ถูกสร้างขึ้น เมื่อเรากดไป
ก็จะเป็น การอนุญาตให้ นักโจรกรรม ได้เข้าถึงไฟล์ต่างๆ ในอุปกรณ์ หรือเครือข่าย รวมถึงกิจกรรม ที่เรานั้น
งานใช้อยู่

ในขณะที่ แรนซัมแวร์ สามารถเข้า ถึงรหัสไฟล์ เว็บแฮก หรืออุปกรณ์ และควบคุม ของเราไว้ แฮกเกอร์จะทำการเรียกค่าไถ่ ให้เราจ่ายเงิน เพื่อเป็นการ ปลดล็อก อุปกรณ์ของเราเอง

แฮกเกอร์จะ ใช้ประโยชน์ จากจุดอ่อน ด้านความปลอดภัย ของผู้ใช้งาน ซึ่งนั่นก็ หมายรวมถึง รหัสผ่าน ที่ใช้ซ้ำ
และคาดเดาง่าย หรือซอฟต์แวร์ ป้องกันไวรัส ที่ล้าสมัย แม้แต่การ ที่เราได้ เชื่อมต่อ wifi และ bluetooth
ที่เปิดให้ใช้ อย่างสาธารณะ

พวกเขามักจะ สร้างข้อมูล หลอกลวงว่า ทางธนาคาร ของผู้ใช้งาน มีรายละเอียด ทางการเงิน มีการทำรายการเปลี่ยนแปลงไป จากนั้นจะ ให้ใส่หมายเลข บัญชีธนาคาร หรือลิงก์ใหม่ ส่งให้เพื่อกรอก และให้เรายืนยัน
รายละเอียดต่างๆ

จากนั้นก็ ทำการแฮก เข้าคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ มือถือ เพื่อจะได้ เข้าถึงข้อมูล ส่วนบุคคล ของผู้ใช้งาน ทำการเปลี่ยน รหัสผ่านต่างๆ และจำกัด กีดกันคุณ ในการเข้าถึง พวกเขาจะ ใช้ข้อมูล ที่ได้รับ เพื่อทำการต่างๆเช่น การโจรกรรม ข้อมูลประจำตัว หรืออาจเข้า ถึงข้อมูลที่ เกี่ยวกับธนาคาร และบัตรเครดิต ของเราได้โดยตรง

กลโกงเหล่านี้ จะตรวจสอบพบได้ ก็ต่อเมื่อ ผู้ใช้งานรู้ว่า ไม่ได้เป็น คนทำธุรกรรม รายการชำระ หรือโอนเงินเหล่านี้เอง

สัญญาณ ที่บอกว่า อุปกรณ์ของคุณ กำลังโดน แฮกข้อข้อมูล

ไม่สามารถ เข้าสู่ระบบต่างๆ ของตนเองได้ เช่น อีเมล คอมพิวเตอร์ หรือมือถือ โซเชียลมีเดีย และบัญชีออนไลน์อื่นๆ ได้​

เราจะสังเกต เห็นว่ามี ไอคอนใหม่ บนหน้าจอ มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ รวมถึงความเร็ว ของมือถือ คอมพิวเตอร์
ลดลงแบบผิดปกติ

เริ่มมีข้อความ ป๊อปอัพปรากฏ ขึ้นบนหน้าจอ มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ ข้อความใน ป๊อปอัพจะ มีข้อความ ทำนองว่ายื่นข้อเสนอ เพื่อช่วย “แก้ไข” ปัญหาต่างๆ ในมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ ของผู้ใช้งาน และจะมีปุ่มที่ขึ้นว่า “ปิด”

มีค่าโทรศัพท์ หรือค่าอินเทอร์เน็ต ที่เพิ่มขึ้นมาก จนผิดปกติ และไม่ทราบสาเหตุ

เงินในบัญชี ถูกโอนออก หายไปจาก บัญชีธนาคาร โดยที่เรา ไม่ได้เป็น คนทำรายการนั้นเลย

จะป้องกัน อุปกรณ์จากการ แฮกข้อมูล​ ได้อย่างไร

หมั่นอัพเดท ตัวซอฟต์แวร์ ป้องกันไวรัส และสปายแวร์ ให้ทันสมัย อยู่เสมอ โดยการเลือก ไฟร์วอลล์ที่ดี
เพื่อรักษา ความปลอดภัย คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ

เลือกซื้อคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์ ป้องกันไวรัส จากแหล่งที่ เชื่อถือได้เท่านั้น ใช้ซอฟต์แวร์ เพื่อรักษา ความปลอดภัย ในอุปกรณ์ เพื่อตรวจสอบไวรัส

ถ้ารู้สึก หรือมีสัญญาณ บางอย่างเตือน ว่าคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ กำลังถูกแฮก หรือมีความ ผิดปกติขึ้น
โดยไม่ทราบสาเหตุ หากไม่สามารถ หาสาเหตุ หรือแก้ไข ได้ด้วยตัวเอง แนะนำให้ติดต่อ ผู้ที่ให้บริการ ซอฟต์แวร์ ที่ป้องกันไวรัส หรือผู้เชี่ยวชาญ ด้านคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้ช่วยเข้ามาดู

หลีกเลี่ยงการ ใช้คอมพิวเตอร์ สาธารณะ hotspot หรือ wifi เพื่อรักษาความ ปลอดภัย ของเครือข่าย และอุปกรณ์ของเรา จากการถูกแฮก หรือเข้าถึงข้อมูล ส่วนบุคคล

ตั้งรหัสผ่าน และ PIN ที่คิดว่า คนอื่นจะ คาดเดาได้ยาก มีการอัพเดต รหัสผ่านเป็นประจำ และอย่าบันทึก
ไว้ในโทรศัพท์ หรือคอมพิวเตอร์ ของเราเด็ดขาด

อย่าเปิดไฟล์แนบ หรือคลิกลิงก์ ในข้อความ หรืออีเมล และโซเชียลมีเดีย ที่ได้รับ จากคนแปลกหน้า หรือมีที่มาไม่น่าเชื่อถือ หากเจอก็ ให้กดลบ ข้อความ หรืออีเมลนั้นทันที

ระวังพวกการ ดาวน์โหลดฟรี สำหรับโปรแกรม ที่ปกติจะ ต้องเสียเงิน หรืองานลิขสิทธิ์ บางอย่าง และการเข้าเว็บไซต์ต่างๆ เช่น เพลง เกม ภาพยนตร์ และเว็บไซต์ พวกแฮกเกอร์ อาจจะทำการ ติดตั้งโปรแกรม เอาไว้โดย
ที่เราไม่รู้ตัว

อย่ากรอกแบบฟอร์ม ออนไลน์ ในซอฟต์แวร์ ที่เป็นอัตโนมัติ โดยที่ไม่มี การเข้ารหัส ในการป้องกัน

เรียบเรียงโดย อลิส