แต่งหน้าติดทน ปัญหาโลกแตกของสาวๆ ที่ตามหาทริคมากมายว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง วันนี้เรามีคำตอบ

แต่งหน้าติดทน เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ให้ทุกคนที่แต่งหน้า วันนี้จะมาบอกทริคการแต่งหน้า ขั้นตอนการแต่งหน้า ทาอะไรก่อนหลัง ให้สวยเป๊ะไม่เลอะ หน้ากากอนามัยมาฝาก

การใช้ชีวิตที่ต้องอยู่ ในช่วงที่สถานการณ์ การระบาดของไวรัสโควิด-19 ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น รีวิวเครื่องสำอาง นอกจากเรื่องการใช้ชีวิตทั่วไป เรื่องความสวยความงาม ที่ช่วยทำให้เรามีความมั่นใจ ก็คือเรื่องที่ขาดไม่ได้เช่นกัน โดยเฉพาะการใช้ชีวิตกับ การสวมหน้ากากอนามัย ตลอดเวลาที่ต้องออกไปข้างนอก

1. เตรียมผิวด้วยไพรเมอร์
การใช้ไพรเมอร์ ก่อนลงเครื่องสำอาง จะช่วยให้เมคอัพอยู่บน ผิวหน้าได้ดีมากขึ้น เพราะจะช่วยทำให้รองพื้น ติดทนนานมากขึ้น ไม่เป็นคราบและไม่เลือนหายก่อนเวลา ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควร ทามอยส์เจอไรเซอร์ ให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงตามด้วยไพรเมอร์

2. ใช้รองพื้น หรือคอนซีลเลอร์เนื้อแมตต์
แน่นอนว่า การที่ใส่หน้ากากนั้น ทำให้ปิดใบหน้าไป เหลือเพียงครึ่งบนเท่านั้น ดังนั้นไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องทากรองพื้น ให้หนาเหมือนจะไปงานเลี้ยง ควรเลือกรองพื้นแบบ แมทเนื้อบางเบา แล้วลงตรงบริเวณ ที่ต้องการปกปิดก็พอ

เช่น ปกปิดบนรอยสิว เพียงเล็กน้อย เพื่ออำพรางสิวได้ หรือบริเวณหน้าผากที่ไม่อยู่ใต้หน้ากาก แนะนำว่าให้เลือก รองพื้นเนื้อแห้งไว ที่สำคัญคือทาไม่หนามาก เพื่อให้ไม่หลุดเป็นคราบง่าย

3. ใช้บลัชออนแบบครีม
แนะนำให้ใช้บลัชออนแบบครีม เนื่องจากติดทนนาน แต่งหน้า ติดทน 7 11 ทำให้ไม่เปื้อนง่ายระหว่างวัน ทำให้ไม่ต้องกังวล เมื่อถอดหน้ากากอนามัย ขณะทานอาหารนอกสถานที่

4. ใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสง แทนแป้งผสมรองพื้น
ไม่ควรใช้แป้งที่ผสมรองพื้น เพราะว่าจะทำให้แป้ง นั้นติดอยู่ที่หน้ากาก จะดูเลอะเทอะ แต่งหน้าให้ติดทนนาน pantip เนื่องจากแป้งผสมรองพื้น มีโอกาสที่จะหลุดติดมากับ หน้ากากได้ง่าย

5. เขียนคิ้วให้เป๊ะ
คิ้วถือว่าคือ มงกุฎของหน้า จึงจำเป็นที่จะตกแต่งให้สวยงาม อีกทั้งคิ้วเป็นส่วนที่อยู่นอก หน้ากากอนามัยอยู่แล้ว จึงไม่ต้องกังวลว่า จะเลอะระหว่างวัน จึงสามารถเขียน ได้ตามปกติ

6. เลือกลิปสติกเนื้อแมตต์
แม้ว่าจะใส่หน้ากากอนามัย ริมฝีปากคือส่วนที่ถูกปกปิด แต่ระหว่างวันนั้นยังมีช่วงที่ มีโอกาสถอดหน้ากากอนามัยอยู่บ้าง แนะนำให้เลือกใช้ลิปสติก ที่ติดทนทั้งวัน ที่สำคัญต้องไม่เลอะง่าย ไม่ว่าจะเป็น ลิปสติกเนื้อแมตต์ ทิ้นท์ เป็นต้น

7. ฉีดสเปรย์เพื่อให้เมคอัพติดทน
ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้ หากอยากจะล็อกทุกอย่าง ไพรเมอร์ ยี่ห้อไหนดี ที่เราแต่งไปติดทนนานยิ่งขึ้น การฉีดสเปรย์หลังแต่งหน้าเสร็จ ช่วยให้มั่นใจได้ว่า เครื่องสำอางจะไม่หลุดไป ติดกับหน้ากากอนามัย อีกทั้งยังช่วยให้สาว ๆ ไม่ต้องเติมเครื่องสำอางระหว่างวันอีกด้วย

หากนึกถึงการแต่งหน้า หลายคนน่าจะคุ้นหูกับคำว่า แต่งแบบสายฝอ หรือสายเกา ใครคนไหนที่กำลังงงว่า คำพวกนี้แปลว่าอะไรกันแน่

“สายฝอ” และ “สายเกา” คือคำที่ใช้เรียก สไตล์ของการแต่งหน้า ซึ่ง สายฝอ ก็คือสไตล์การแต่งหน้า ที่ได้รับอิทธิพลจาก “ฝรั่ง” หรือผู้คนชาวตะวันตก ส่วน สายเกา นั่นมาจากคำว่า เกาหลี ก็คือ สไตลล์การแต่งหน้าที่ได้รับอิทธิพล มาจากทางเกาหลีใต้นั่นเอง ไพรเมอร์ 7-11 

การแต่งหน้าสองสไตล์นี้มีจุดเด่นตรงไหน?

มาดูกันที่ “สายฝอ” โดยส่วนใหญ่แล้วน่าจะเป็น สไตล์การแต่งหน้าที่สาว ๆ อาจจะเคยแต่งตามกัน แต่งหน้าติดทนหน้ามัน เนื่องจากเมืองไทยได้รับอิทธิพล ด้านวัฒนธรรมจาก ตะวันตกมานานมากแล้ว ซึ่งเอกลักษณ์ของ การแต่งหน้าสไตล์นี้

จะเป็นการพรางจุดบกพร่อง อีกทั้งการแต่งหน้าสไตล์นี้ จะมีความแน่น อย่าง แต่งตาเข้ม ๆ หรือสีปากจัด ๆ มีการคอนทัวร์และไฮไลท์เพื่อให้เกิดมิติ เป็นการสร้างโครงหน้า ของฝรั่งที่คมอยู่แล้ว ดูคมชัดและเป๊ะมากขึ้น

และอีกหนึ่งแนวการแต่งหน้า ที่เรียกว่าเป็นเทรนด์อยู่ตอนนี้ ก็คือ “สายเกา” ถึงแม้การแต่งหน้าแนวสายฝอ จะให้ลุคที่สวยเฉี่ยว ดูเป๊ะทุกมุม หากเป็นการไปออกงานกลางคืน หรือออกงานสำคัญ เรียกได้ว่าเหมาะอย่างยิ่ง แต่ถ้าจะให้แต่งหน้าแน่น ๆ แบบจัดเต็มทุกวัน

สำหรับสาว ๆ บางคนน่าจะคิดว่าเป็นเรื่อง ที่ต้องใช้เวลาและเครื่องสำอางไม่น้อย อีกประเด็นก็คือ โครงหน้าและสภาพผิว ของคนเอเชีย ไม่เหมือนกับผู้หญิงฝั่งตะวันตก อีกทั้งในช่วงนี้ที่ ภาพดาราจากเกาหลี ที่มาพร้อมกับซีรีส์ อีกทั้งวงการไอดอล ส่งผลทำให้การแต่งหน้าสไตล์ “สายเกา” ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ไม่แพ้สายฝอเลยทีเดียว

แล้วการแต่งหน้าสไตล์ “สายเกา” เป็นอย่างไร?

หากจะให้อธิบายให้เข้าใจ คงจะต้องจินตนาการ ถึงหน้านางเอกซีรีส์เกาหลี ที่มีความสวยแบบเป็นธรรมชาติ และดูเหมือนไม่ได้แต่งหน้าอะไรเยอะ โดยแท้ที่จริงแล้ว เคล็ดลับการแต่งหน้านี้จะเน้น “งานผิว” ซึ่งการแต่งหน้าสไตล์เกาหลี จะเป็นการแต่งให้ ผิวดูสุขภาพดี มีความฉ่ำวาว บางเบา แบบธรรมชาติ

เครื่องสำอางจากแบรนด์ Jung Saem Mool มีคุณสมบัติเรื่องช่วยให้ความงามที่เป็นธรรมชาติของผิว

สิ่งที่สำคัญในเรื่อง การแต่งหน้าของ Jung Saem Mool จะเน้นให้ความสำคัญ กับผิวที่ทำให้ดูสุขภาพดี อีกทั้งเสริมจุดเด่นของแต่ละคน มารวมเข้ากับเทรนด์แฟชั่น เช่น การเลือกเฉดสีการแต่งหน้า ที่ให้เหมาะกับบุคลิก ของแต่ละคน ซึ่งใช้ทฤษฏี Personal color เป็นการการจับคู่สีเครื่องสำอาง ให้เหมาะสมสีนัยน์ตา สีผม และสีผิว จนกลายเป็น ลุคเฉพาะตัว ที่เหมาะกับแต่ละคนจริง ๆ

เรียกได้ว่าเป็นหลักการเดียว กับที่ใช้แต่งหน้า ให้กับดาราเกาหลี เครื่องสำอาง ยี่ห้อไหน ติดทน อีกทั้งประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเหล่านี้ ส่งผลทำให้ Jung Saem Mool ตัดสินใจออกผลิตภัณฑ์ ความงามของตัวเองวางจำหน่ายเมื่อปี 2016

ซึ่งมีนิยามความงาม 3 เรื่องก็คือ การโชว์ที่ดูเป็นธรรมชาติ การแต่งหน้าที่ทันสมัย เทรนด์ใหม่มาแรง และความสวยที่เนียนเป๊ะ โดยมีสินค้าทั้งหมด 4 กลุ่มหลัก ก็คือ สกินแคร์ เบสเมคอัพ เมคอัพคัลเลอร์ และอุปกรณ์การแต่งหน้า

ทุกคนในสถานการณ์โควิด ที่ต้องดำรงชีวิตโดยการ สวมหน้ากากอนามัยทุกวัน อย่างไรก็ตามสาว ๆ ก็ยังคงอยากแต่งหน้า ให้ดูสวยเป๊ะอยู่เสมอ เพราะเป็นการสร้างความมั่นใจ ในตัวเองได้เหมือนเดิม แม้ว่าจะมีหน้ากากมาปิดบัง ที่ทำให้ไม่สามารถ โชว์ผิวหน้าได้ เหมือนที่ผ่านมา สำหรับเคล็ดลับการแต่งหน้า ที่ได้มาฝากกันหวังว่าสาว ๆ ทุกคนยังคงสวยไปพร้อม ๆ กับความปลอดภัย และรับผิดชอบต่อสังคมได้เช่นกัน @UFA-X10 

เรียบเรียงโดย อลิส