แฟชั่นและโลกร้อน จากผลการสำรวจเพื่อที่จะมองเห็นและทำความเข้าใจบทบาทของ Fast Fashion ที่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม

แฟชั่นและโลกร้อน ในขณะที่หลายคน รู้สึกว่าพวกเขาควรจะ ต้องทำอะไรมากกว่านี้ เพื่อที่จะยับยั้งการใช้จ่าย ไปกับ Fast Fashion 79% ของผู้ที่ได้รับการสำรวจ เชื่อว่าบริษัทที่ผลิตเสื้อผ้า ที่เข้าข่าย Fast Fashion ควรจะต้องทำอะไรมากกว่านี้ เพื่อที่จะแจ้งสาธารณะ ให้ทราบถึงผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมเวลาที่พวกเขา ซื้อเสื้อผ้าของบริษัท

และ 70% ของผู้ได้รับการสำรวจ คิดว่าผู้บริโภค และนักช็อปมีสิทธิที่ จะรู้ว่าปริมาณคาร์บอน ที่ถูกใช้เพื่อผลิตสินค้า ในโรงงานมีปริมาณเท่าไหร่ ในขณะเดียวกันที่ 59% ของผู้ทำการสำรวจ เชื่อว่าเสื้อผ้าทุกชิ้น ควรจะผลิตออกมาภายใต้ คะแนนที่บ่งบอก ความเป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถ ตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าได้ อย่างมีสติมากขึ้น

จะเป็นอย่างไรถ้าเสื้อผ้า โดยเฉพาะ Fast Fashion มีการประเมินความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในโพลสำรวจ 65 เปอร์เซ็นกล่าวว่า พวกเขาจะมีแนวโน้มที่ จะเลือกซื้อเสื้อผ้าที่มีเรตติ้งเขียว (เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม) มากกว่าเรตติ้งแดง (ทำร้าบสิ่งแวดล้อม) หากมีการจัดเรตติ้ง ออกมาจริง ๆ และ 41% ที่จะเปลี่ยนพฤติกรรม การซื้อถ้าเกิดพวกเขา ได้ดูผลกระทบที่แท้จริง ของการซื้อเสื้อผ้าแบบ Fast Fashion

จากการวิจัย Christopher Nieper Foundation ได้เปิดเผยว่าเราจะซื้อเสื้อผ้าเฉลี่ย 1 – 5 ตัวต่อเดือน จะเท่ากับ 60 ตัวต่อปี ซึ่งเราอาจจะมองว่าน้อย แต่ แซมมีแบร์ คิดว่า หากมองในสเกลที่ใหญ่ขึ้น เช่นหนึ่งพันคน หนึ่งหมื่นคนต่อปี มันเป็นเสื้อผ้าที่ จำนวนไม่น้อยเลย

บางทีเราอาจจะต้องหันมาส่งใจ Slow Fashion กันบ้าง โดย แซมมีแบร์ จะมานำเสนอ Slow Fasshion ในโอกาสต่อไป อย่าลืมติดตามเว็บไซต์เอาไว้ เพื่อที่จะไม่พลาดข่าวสารในครั้งต่อ ๆ ไปนะ